สาระน่ารู้เรื่องสัตว์ป่า

สัตว์ป่ามีความหมายอย่างไรต่างกับสัตว์บ้านตรงใหน?   
                        สัตว์ป่าตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่าฉบับล่าสุดปีพ.2535 ซึ่งออกเมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2535 ให้ความหมายได้ว่า สัตว์ทุกชนิดไม่ว่าสัตว์บก สัตว์น้ำ สัตว์ปีก แมลง หรือแมง โดยสภาพธรรมชาติย่อมเกิดและดำรงชีวิตอยู่ในป่าหรือในน้ำ และให้ความหมายรวมถึงไข่ของสัตว์สงวนและสัตว์ป่าคุ้มครองฉบับเก่าคือ ฉบับ 2503 สัตว์ป่าคุ้มครองจะมีชนิดที่ และชนิดที่ แต่ฉบับใหม่จะรวมหมดเลยเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองอย่างเดียว
                        สำหรับสัตว์ป่าสงวน หมายถึง สัตว์ป่าที่หายากตามบัญชีท้ายพระราชบัญญัติฉบับนี้ ซึ่งมีทั้งสิ้น 
15 ชนิด ได้แก่ นกเจ้าฟ้าหญิงสิรินธร แรด กระซู่ กูปรี ควายป่า ละมั่ง สมัน เลียงผา กวางผา นกแต้วแร้วท้องดำ นกกระเรียน แมวลายหินอ่อน สมเสร็จ เก้งหม้อ พะยูน สำหรับสมันเชื่อกันว่าสสูญพันธ์ไปแล้วจากโลกประมาณ 80 ปีแล้ว ส่วนสัตว์ป่าคุ้มครอง หมายถึง สัตว์ป่าที่กำหนดไว้ในกฎกระทรวงซึ่งปัจจุบันนี้มีอยู่มากกว่า 300 ชนิดขึ้นไปกฎกระทรวงก็ออกมาในแต่ละปี ก็จะกำหนดมาว่าตัวใหนเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองบ้าง
            
              สัตว์ป่าในบ้านเราในระยะ 10 ปีทีผ่านมาเป็นอย่างไรบ้าง?
                        จำนวนของสัตว์ป่า ค่อนข้างที่จะน่าวิตกเนื่องจากการบุกรุกทำลายป่าไม้ซึ่งถือว่าเป็นสถานที่อยู่หรือบ้านของสัตว์ป่านี่เรายังไม่สามารถควบคุมการบุกรุกทำลายป่าไม้ได้ และประกอบกับการมีการล่าสัตว์ป่าโดยผิดกฎหมายไม่ว่าจะเป็นการเอาอวัยวะมาทำเป็นยาและสมุนไพรต่าง ๆ ที่มีการเข้าใจผิดไม่ว่าจะเอาลูกสัตว์มาขายโดยหลอกประชาชนว่าเป็นสัตว์ที่เชื่องบ้าง เป็นสัตว์ที่หายากบ้าง สิ่งเหล่านี้เกิดจากน้ำมือของมนุษย์ที่ไปทำลายป่า
             สัตว์อย่างอื่นนอกจากสมันแล้วมีอะไรอีกบ้างที่ใกล้จะสูญพันธุ์หรือว่าหายากเต็มทีแล้วในประเทศไทย
                ในปัจจุบันที่หายาก ได้แก่ นกเจ้าฟ้าหญิงสิรินธร ซึ่งมีถิ่นกำเนิดหรือถิ่นอาศัยอยู่ที่        บึงบอระเพ็ด ซึ่งปัจจุบันบึงบอระเพ็ดที่บริเวณนั้นก็มีการเปลี่ยนสภาพไปบ้าง ทำให้นกพวกนี้ซึ่งเป็นนกนางแอ่นชนิดหนึ่งไม่สามารถที่จะอยู่ได้  อีกอันที่น่าเป็นห่วง ก็คือ แรด กระซู่ และกูปรีพวกนี้ปัจจุบันไม่ได้รับข่าวเลย ทำให้น่าเชื่อว่าพวกนี้ใกล้จะสูญพันธุ์มาก และได้รับทราบจากพวกพรานที่เข้าไปล่าสัตว์ว่าไม่เคยเห็นสัตว์พวกนี้เลยในป่าเมืองไทย ยกตัวอย่างเช่นกระซู่ ซึ่งมีถิ่นกำเนิดอยู่ทางภาคใต้ และบางส่วนของจังหวัดชัยภูมิ ก็เห็นแต่เพียงรอย ไม่สามารถที่จะเห็นตัวจริงได้ เราก็ยังไม่ยืนยันว่ายังมีหลงเหลืออยู่ในประเทศไทย ส่วนกูปรี ซึ่งอยู่ทางด้านบุรีรัมย์ ติดกับชายแดนด้านกัมพูชา ซึ่งทางกัมพูชา มีสงคราม ทำให้สัตว์พวกนี้ถูกฆ่าหรือว่าสัตว์ถูกกับระเบิดล้มตายไปเป็นจำนวนมาก ซึ่งปัจจุบันเชื่อว่ากูปรี ไปหลงเหลืออยู่ที่ลาวหรือเวียดนาม แต่ในประเทศไทยคิดว่าหายาก หรือว่าแทบจะไม่มีเลย
             ในเมื่อกระซู่หรือสัตว์ที่บอกว่าสูญพันธุ์ไปแล้ว พวกพรานทราบได้อย่างไรว่าเห็นรอยแล้วบอกว่าเป็นกระซู่?
                พรานจะมีประสบการณ์ในการตามรอยสัตว์ป่า การที่จะไปยิงสัตว์ป่าหรือไปล่าสัตว์ป่า พวกพรานนี้ต้องอาศัยประสบการณ์ของเขา คือการดูร่องรอยการกินอาหาร เช่น เปลือกต้นไม้ ใบไม้ และดูร่องรอยบนดิน คือลักษณะรอยเท้าของสัตว์พวกนี้เค้าจะชำนาญมากในรอยของพวกกระซู่ หรือพวกแรด นี้มีลักษณะร่องรอยคล้ายพวกสมเสร็จเหมือนกัน แต่เขาจะดูรอยที่ฝังลงไปในโคลน หรือว่ารอยย่ำของฝ่าเท้าที่ลงไปในโคลน ว่ามีขนาดหนักหรือเบากว่า

             พวกสมเสร็จเก้งหม้อพวกนี้ก็เหลือน้อยเต็มทีแล้วใช่หรือไม่?
                สมเสร็จ เก้งหม้อ ก็เหลือน้อยมากสมเสร็จ ถิ่นกำเนิดอยู่ทางตอนใต้ และในถิ่นบางถิ่นคนก็ล่าเอาเนื้อ สมเสร็จเป็นสัตว์ที่ไม่มีอาวุธต่อสู้เลยหนีอย่างเดียว ในสภาพธรรมชาติเป็นเหยื่อของพวกเสือโคร่งหรือว่าเสือดาว และเวลาเจอศัตรูพวกนี้จะวิ่งหนี แล้วก็หาแหล่งน้ำ หรือแหล่งโคลนลงไปดำหลบภัยอันตราย แต่ว่ามาเจอกับมนุษย์ที่จะยิงล่าอย่างเดียว ก็จะสู้กระสุนปืนไม่ได้ บางทีก็จะยิงตัวแม่เพื่อจะเอาตัวลูก ซึ่งลูกที่เกิดใหม่ก็จะมีลักษณะคล้ายแตงไทย มีลักษณะสวยงามมาก จะเอามาขายประชาชน

             แสดงว่าก็ยังมีคนนิยมเลี้ยงสัตว์ป่าพวกนี้อยู่ใช่หรือไม่?
                        ยังมีประชาชนนิยมเลี้ยงสัตว์ป่าพวกนี้อยู่ แต่ถ้าเทียบกับอดีต ก็ลดน้อยลงแต่ยังไม่หมดไปจากเมืองไทย
             
             มีสัตว์ป่าอะไรบ้างที่คุณหมอเคยได้รับแจ้งมา ที่ประชาชนยังหาซื้อมาเลี้ยงอยู่?
                สัตว์ป่าที่เป็นที่นิยมอันดับแรก ๆ เลยก็เป็นพวกลูกชะนี ลิงค่าง หรือว่าลิงลม หรือจำพวกหมีควาย หรือหมีหมา หรือพวกลูกแมวดำ หรือลูกชะมด อีเห็น โดยเฉพาะลูกค่าง ซึ่งตอนเกิดใหม่ ๆ จะมีสีทองก็เอามาหลอกขายกันว่าเป็นลิงเผือกบ้าง ค่างเผือกบ้าง และสามารถที่จะโก่งราคาได้ในราคาที่สูง

              ถ้าหากตอนนี้ยังมีคนเลี้ยงสัตว์เหล่านี้อยู่ หมายถึง ชะนี อะไรเหล่านี้ มีคำแนะนำหรือไม่?
ถ้ายังมีสัตว์ป่าไม่ว่าจะเป็นสัตว์ชนิดใหนควรจะรีบแจ้งให้กรมป่าไม้ หรือว่าป่าไม้จังหวัด
ทราบเพื่อที่จะได้ทำทะเบียนประวัติไว้ หรือว่าแนะนำให้เจ้าของสัตว์ป่าควรปฏิบัติอย่างไร เราไม่ควรที่จะไปหลบเลี่ยง หรือว่าเอาสัตว์เหล่านั้นหลบไปเพราะเกิดอันตรายต่อสัตว์ ส่วนในการกรณีที่มีปัญหาเรื่องการเลี้ยงสัตว์ก็ควรจะปรึกษาคนที่เชี่ยวชาญในการเลี้ยงสัตว์ป่าหรือว่าโทรมาเพื่อปรึกษากับพวกหมอก็ได้ว่าควรจะเลี้ยงอย่างไร

             ลิงหรือชะนี ดุ กัดคน มีอันตรายอย่างนี้ควรทำอย่างไร?
                    สำหรับเลี้ยงกรณีจนโตแล้ว แล้วมีความผูกพันเป็นลูกเป็นหลานไปแล้ว จะมีปัญหาเรื่องเขี้ยวของสัตว์พวกนี้ ซึ่งมีลักษณะค่อนข้างยาวและคม ก็จะมีการโทรมาปรึกษาว่าควรทำอย่างไร ที่นี้ก็อยากจะแนะนำว่าถ้าจะเลี้ยงไปจนตาย ถ้าอยากจะตัดเขี้ยวก็ต้องแจ้งเจ้าของก่อนว่าอธิบายให้เจ้าของฟังว่า ต้องเลี้ยงเจ้าตัวนั้นจนกว่าจะเสียชีวิต หรือว่าแก่ตายไปเพราะว่าเมื่อตัดเขี้ยวไปแล้ว โอกาสที่จะปล่อยกลับคืนสู่ป่า การหาอาหาร การต่อสู้กับฝูงลิงป่าทำไม่ได้ก็จะแพ้ และอาจถูกกัดถึงตายได้ เพราะฉะนั้นเจ้าของบางคน ซึ่งรักพวกลิง พวกชะนีพวกนี้มาก เราจะแนะนำว่าถ้าคุณอยากจะตัดเขี้ยวคุณก็ต้องเลี้ยงสัตว์ป่าตัวนี้ไปจนกว่าจะเสียชีวิต ปัญหาก็คือว่าบางคนมักง่าย หรือว่าไม่รู้ ก็เอาคีมตัดไปที่เขี้ยว ทั้ง เลย ข้างบน ข้างล่างซ้าย โดยไม่รู้ว่าถ้าตัดไปแล้วเนี่ย โพรงของประสาทหรือว่าโพรงของเส้นเลือดจะโผล่ออกมา เหมือนคนที่ฟันผุ ขนาดคนเราฟันผุซี่เดียวยังปวดมาก ชะนีหรือพวกค่างเจอเข้าไป ซี่ ก็ปวดแบบนั้นตลอดชีวิต โดยไม่มีการไปหาหมอ หรือว่าไปอุดฟันแบบคนได้ ฉะนั้นในการที่จะตัดเขี้ยวทั้ง ของพวกลิง ชะนี ค่าง พวกนี้เราจะแนะนำเจ้าของว่า ทางสัตวแพทย์จะวางยา ยาสลบให้คุณต้องติดต่อกับทันตแพทย์ เพื่อที่จะใช้วิธีการตัด โดยให้ทางทันตแพทย์ตัด แล้วก็ใช้สิ่งทีทอุดลงไปในโพรงของรากฟันเหมือนฟันคนต้องอุดให้หมด เพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อโรคเข้าไปในโพรงประสาทของฟันเพื่อที่ไม่ให้สัตว์มีอันตราย ไม่เจ็บปวดไปตลอดชีวิต แต่ว่าทั้งนี้ทั้งนั้นต้องเลี้ยงสัตว์ตัวนั้นจนกว่าเขาจะตายไปเอง ห้าม เอาไปปล่อยในป่า
             อย่างบางกรณีที่ผู้เลี้ยงนำสัตว์พวกนั้นมาเลี้ยงที่มันยังเล็ก ๆ ก็มีความน่ารักแต่พอเลี้ยงไปซักระยะหนึ่ง บางคนก็บอกว่าเลี้ยงไม่ไหวแล้ว บางทีมันก็ดุตามธรรมชาติ แล้วก็ไม่อยากเลี้ยงแล้วตอนนี้ควรทำอย่างไรดี ให้ติดต่อที่ใหนดี   ตอนนี้มีเยอะมาก ก็ตอนที่เป็นลูกสัตว์ก็จะน่ารักมาก ไม่ว่าพวกลิงหรือพวกชะนี หรือพวกหมี แต่พอโตขึ้นเอาไม่ไหวจะกัดเจ้าของ หรือว่าเพื่อนบ้าน ก็จะเอามาบริจาค สถานที่ที่บริจาคส่วนมากจะเป็นสวนสัตว์ ไม่ว่าที่กรุงเทพฯ หรือต่างจังหวัดและก็ทางกรมป่าไม้   อย่างพวกหมีควาย สัตว์ใหญ่ พวกนี่ต้องไว้จนตาย พวกหมีควายพวกเสือโคร่ง
                  
         ต้องตัดเขี้ยวเหมือนกันหรือไม่พวกหมี?
                ไม่ต้องตัดในกรณีที่เลี้ยงจะตัดเล็บ 2 ขาหน้า ซึ่งการตัดเล็บของพวกสัตว์กินเนื้อจะทำให้ไปตัดอวัยวะในการใช้ต่อสู้ศัตรูหรือในการหาอาหารหมดไปเลยเพราะฉะนั้นต้องเลี้ยงเค้าไป จนกว่าเค้าจะเสียชีวิต


             เล็บพวกหมีเวลาตัดแล้วจะไม่ยาวออกมาใหม่เหมือนเล็บคนหรือไม่?
                เวลาตัดก็จะตัดตรงโคนของเล็บเป็นส่วนเกาะระหว่างเล็บซึ่งเป็นเนื้อ จะเรียกคอราติน ลักษณะคล้ายเล็บคน ถ้าเทียบกับเล็บคนก็ตัดโคนเล็บเลย สิ่งที่ยึดระหว่างตรงเล็บกับตรงข้อ ตรงนั้นเราตัดออกซึ่งการตัดออกนี้จะเสียเลือดมาก เพราะฉะนั้นต้องวางยาสลบแบบให้หลับ 100% และเมื่อตัดแล้วก็จะไม่งอกออกมาขนจะคลุม อยู่บริเวณที่เคยเป็นเล็บ ซึ่งหมืเล็บมันจะไม่หดกลับแบบของเสือเพราะฉะนั้นก็จะตัดออกไป โดยที่เราไม่ต้องดึงเล็บออกมา หลังจากที่สลบแล้วก็ให้เล็บอยู่แบบนั้นแล้วก็ตัดตรงโคนเล็บ ส่วนในรายของสัตว์พวกเสือ เล็บจะหดกลับอยู่ในอุ้งตีน เพราะฉะนั้นเวลาวางยาสลบเราก็ต้องดึงออกมาให้สุดแล้วก็ตัดตรงเอ็นแล้วก็เนื้อที่ยึดโคนเล็บออกไปให้หมด


                        รู้สึกว่ายุ่งยากเหมือนกัน และอย่างแมวดาวล่ะ?
                แมวดาวเป็นสัตว์อีกชนิดหนึ่งที่มีลักษณะคล้ายเสือดาว แต่รูปร่างและน้ำหนักจะต่างกันมาก แมวดาวโตเต็มที่น้ำหนักไม่เกิน 35กิโลกรัม ส่วนเสือดาวจะประมาณ 30 กิโลกรัม บางทีพ่อค้าสัตว์ก็เอาแมวดาวมาหลอกขายประชาชน หลอกว่าเป็นลูกเสือดาวบ้าง เพื่อที่จะดึงราคาให้สูงขึ้น คนที่ไม่รู้ก็ซื้อไป ซึ่งเมื่อซื้อแล้วตอนแรกๆ ก็ทนไหว พอต่อๆไป ก็ทนไม่ไหวเนื่องจากปัสสาวะและอุจจาระมันค่อนข้างกลิ่นรุนแรงมาก ซึ่งสัตว์พวกนี้กินเนื้อเป็นอาหารซึ่งมีสารประกอบพวกไนโตรเจนค่อนข้างสูง ฉะนั้นเวลามันถ่ายทอดออกมาจะมีกลิ่นเหม็นมากซึ่งจะเป็นโดยธรรมชาติ


            ตอนนี้ที่เห็นคนนิยมเลี้ยงกันโดยแน่ใจว่าเป็นสัตว์ป่าหรือไม่ อีกัวน่า คงไม่ใช่สัตว์ป่า  เมืองไทย?
                เป็นสัตว์ป่าของทางอเมริการใต้ เป็นสัตว์เลื้อยคลานชนิดหนึ่ง และมีการเพาะพันธุ์ที่จากต่างประเทศค่อนข้างเยอะ และส่งเข้ามาขายที่ประเทศไทย โดยนำเข้ามาใส่ถุงมาในลักษณะที่เป็นตัวเล็ก ๆ ตัวสีเขียวจัด แต่พอโตขึ้นมีหนามขึ้นที่คอหรือว่าสีบริเวณลำตัวเปลี่ยนไป ตัวจะใหญ่เทอะทะแล้วก็ไม่ค่อยน่ารักเหมือนตอนที่เป็นตัวเล็ก ๆ จุดที่ต้องระวังเรื่องอีกัวน่า ก็คือเรื่องอุจจาระและปัสสาวะ ซึ่งจะมีเชื้อโรคตัวหนึ่ง เชื้อแบคทีเรียตัวหนึ่งที่จะสามารถติดต่อมาถึงคนได้ โดยผ่านทางอาหารและน้ำ ซึ่งชื่อว่าเชื้อ ซัลโมเนลล่า ปกติแล้วในต่างประเทศกลัวกันมากเพราะประชาชนหรือทางยุโรปหรือเมริกา ระบบลำไส้หรือระบบทางเดินอาหารจะมีความต้านทางหรือทนต่อเชื้อนี้น้อยกว่าคนทางเอเซีย แต่สำหรับคนทางเอเซีย หรือคนไทยเรานี่มีความต้านทานต่อเชื้อนี้เข้าไปจำนวนมากโดยเราไม่ระวังเรื่องความสะอาด ขณะที่บริโภคน้ำ หรือบริโภคอาหารก็จะติดเชื้อนี้เข้าไป ก็สามารถทำให้เกิดโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหารได้เช่น ท้องเสีย ท้องร่วง และทำให้เกิดการเสียน้ำ อาจจะอันตรายถึงชีวิต
         มีคำแนะนำสำหรับคนที่กำลังเลี้ยงอีกัวน่าอยู่หรือไม่?
                สำหรับรายที่กำลังเลี้ยงสัตว์เลื้อยคลานประเภทนี้อยู่ การที่จะเอามาเล่นก็ไม่ได้ห้าม แต่ว่าหลังจากเล่นเสร็จแล้วควรจะทำความสะอาด ร่างกายหรือล้างมือให้สะอาดเสียก่อนที่จะบริโภคอาหารหรือน้ำและตัวสัตว์ก็ควรใช้ยาฆ่าเชื้อชนิดอ่อนละลายน้ำแล้วชุบผ้าเช็ดลำตัวทุกวัน และมีการทำสะอาดกรงทุกวัน บริเวณกรงที่เลี้ยงควรจะถูกแสงแดดอย่างเต็มที่เพื่อที่จะฆ่าเชื้อโรคพวกนี้ให้ได้หมด

             ถ้าพบเห็นการซื้อขายสัตว์ป่าควรทำอย่างไรดี?
                ถ้าเราเห็นมีการซื้อขายสัตว์ป่าให้เรานึกในใจเลยว่าเป็นการผิดกฎหมาย เราสามารถที่จะแจ้งเจ้าหน้าที่ป่าไม้หรือเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ ให้เข้าไปตรวจสอบหรือจับกุมได้ทันที
             ถ้ามีสัตว์ป่าอยู่ในครอบครองก่อนที่พระราชบัญญัติสัตว์ป่าสงวน และสัตว์ป่าคุ้มครอบปี พ.. 2535 หมายถึงเลี้ยงไว้ก่อนพระราชบัญญัติ ควรจะทำอย่างไรดี?
                ควรจะแจ้งกรมป่าไม้หรือกรมประมง เพื่อที่จะได้ทำให้สัตว์ป่าตัวนั้นถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งโดยทั่วไปเท่าที่ทราบทางกรมป่าไม้หรือกรมประมงก็จะอนุญาตให้เจ้าของเดิมเลี้ยงสัตว์ตัวนั้นไปจนกว่าจะเสียชีวิต หรือว่าครอบครัวไปจนกว่าสัตว์ตัวนั้นจะเสียชีวิต แต่หลังจากสัตว์ตัวนั้นเสียชีวิตแล้วห้ามไปหามาเลี้ยงใหม่คือ หมดแล้วตัดตอนไปเลย ไม่ต้องไปหาสัตว์ป่าตัวอื่นมาเลี้ยงต่อ

             สัตว์ป่าสงวนมีอยู่ทั้งหมด 15 ชนิด ไม่ทราบว่าทางส่วนราชการมีการจะเพิ่มจำนวนของสัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครองอีกบ้างหรือไม่?
                        ในส่วนขององค์การสวนสัตว์เองก็พยายามที่จะเพิ่มจำนวนพวกนี้ ซึ่งบางอย่างบางชนิดเราก็สามารถที่จะเพิ่มจำนวนได้ แต่ว่ายังไม่มากนัก เช่น สมเสร็จ นกกระเรียน ละมั่ง และพวกเก้งหม้อ สามารถที่จะผสมพันธุ์และก็ขยายพันธุ์ในสวนสัตว์ได้ แต่ว่าถ้าจะให้ได้ผลสำเร็จดี ก็คือต้องไปขยายพันธุ์ให้ได้จำนวนมากพอที่จะเอาไปขยายพันธุ์ให้ได้จำนวนมากพอที่จะเอาไปปล่อยเข้าไปสู่ธรรมชาติเดิม ปล่อยสู่ป่าที่เป็นถิ่นกำเนิดได้อย่างเดิม
            บางคนไปเจอสัตว์ที่มันค่อนข้างจะประหลาด คือไม่ค่อยได้พบเห็นบ่อยนักทำอย่างไรจึงจะรู้ว่าเป็นสัตว์สงวนหรือไม่ต้องแจ้งใคร?
                ผู้เชี่ยวชาญไม่ว่าจะเป็นจาก กรมประมงกรมป่าไม้หรือองค์การสวนสัตว์ก็ได้อาจจะโทรเข้ามาบอกลักษณะก็สามารถบอกได้คร่าว ๆ ได้ หรือว่าอาจจะถ่ายรูปภาพและส่ง รูปภาพมาให้ดูก็ได้

             ช้างนี่ถือว่าเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองหรือไม่?
                เป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง แต่แปลกหน่อยก็คือว่าช้างป่า เป็นสัตว์ป่าคุ้มครองอยู่ในความรับความรับผิดชอบของกรมป่าไม้ ส่วนช้างบ้านที่เราเห็นเดินเร่ร่อนเป็นสัตว์พาหนะ ตามพระราชบัญญัติปี พ.. 2482 อยู่ในความควบคุมดูแลของกรมปศุสัตว์ ปัจจุบันมันอยู่ 2สถานะ

             ตลอดปี 2541 ที่ผ่านมาตลอดทั้งปีมีช้างกี่เชือกที่มาขอรับการรักษา?
                ในรายของช้างบ้าน ปี 2541 ได้ทำการช่วยเหลือไปทั้งหมด 288 เชือก รอดทั้งหมด 285 เชือก ตาย เชือก ถ้าเราคิดเป็นมูลค่าช้างเฉลี่ยแล้วตัวละประมาณ แสนบาท คือช้างโดยทั่วไปราคาจะประมาณ หมื่น – 5 แสนบาท แต่เราตีว่าตัวละแสนบาท เราก็สามารถประหยัดงบประมาณของรัฐบาลไปได้แปดล้านห้าแสนบาทในปี 2541 ถ้าคิดเป็นราคาของสัตว์ อยากฝากคติข้อคิดเตือนในในปีใหม่ว่ามีอยู่ 4 ไม่คือ ไม่เลี้ยง ไม่ล่า ไม่ฆ่า ไม่กินสัตว์ป่า สัตว์ป่าก็จะไม่สูญพันธุ์
  

19 ความคิดเห็น:

  1. ชอบคะ เนื้อหาครบถ้วนน่าสนใจดี

    ตอบลบ
  2. เป็นปนะโยชน์ต่อการเรียนรู้มากครับ ขอบคุณครับ

    ตอบลบ
  3. ได้ความรู้มากเลย ค่ะ

    ตอบลบ
  4. ขอบคุณสำหรับความรู้นะครับ

    ตอบลบ
  5. มีประโยชน์มากคับ ต่อนาๆๆ ชาติ เเล้ว สัตว์ป่าคุ้มครอง เเละ มีความสวยงามไม่เเพงที่ไหนเลยนะ คับ อิๆๆ :p

    ตอบลบ
  6. ชอบๆๆๆคะเนื้อหาเยี่ยม เทมเพตสวย ว่าแต่ช่วยแนะนำด้วยนะคะอยากทำบ้างคะ

    ตอบลบ
  7. ได้ความรู้ดีค่ะ ชอบเรื่องนี้

    ตอบลบ
  8. ได้ความรู้มากมายเลยค๊ะ..มีประโยชน์มากๆๆ

    ตอบลบ
  9. พี่คะหนูอยากทำบ้างคะ ช่วยสอนด้วยนะคะ เนื้อหาน่าสนใจทำได้สวยคะ

    ตอบลบ
  10. น่าสนใจ ทำได้ครบถ้วนมากเลย

    ตอบลบ
  11. เนื้อหาแน่นดี อ่านเข้าใจง่าย เป็นกำลังใจให้ผู้จัดทำ ทำงานดีๆ แบบนี้ต่อไปน่ะค่ะ ^^

    ตอบลบ
  12. เป็นเรื่องที่น่าสนใจมาก และมีประโยชน์มากๆเลย
    ขอบใจนะที่ให้ความรู้ดีๆแบบนี้ ชอบมาก

    ตอบลบ
  13. ดีครับ เนื้อหาคอบคลุม แต่อยากให้เสริเนื้อหาของส่วนที่เป็นวีดโอนะครับ

    ตอบลบ
  14. ชอบคะทำได้สวย อยากทำบ้างคะเมื่อไหร่น้องปีสองสาขาเราจะได้ทำบ้างนะ

    ตอบลบ
  15. บล็อกสวยจัง อ่านง่าย ดูน่าสนใจ

    ตอบลบ