สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม
สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมคือสัตว์เลือดอุ่นที่มีโครงกระดูกแข็งและมีขนปุยๆหรือเป็นเส้นๆ การเป็นสัตว์เลือดอุ่นหมายถึงว่ามันสามารถรักษาอุณหภูมิของร่างกายให้คงที่ได้ แม้อากาศจะหนาวเย็นมาก โครงกระดูกช่วยค้ำจุนร่างกายและปกป้องอวัยวะบอบบางภายใน เช่น หัวใจ ปอด และสมอง
อาณาจักรสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมมีอยู่ราวๆ 4500 ชนิด ส่วนใหญ่มีลูกอ่อนที่เจริญอยู่ภายในร่างกายแม่ ขณะที่ลูกอ่อนเจริญอยู่นั้น อวัยวะพิเศษที่รียกว่ารกจะส่งอาหารและนำจากร่างกายของไปให้ สัตว์ลี้ยงลูกด้วยนมประเภทนี้เรียกว่า สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่เติบโตในมดลูกแม่สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมเลี้ยงลูกอ่อนด้วยน้ำนมจากร่างกายของตัวเอง ลูกอ่อนจะดูดน้ำนมจากหัวนมซึ่งอยู่บนต่อมน้ำนมพิเศษหรือเต้านมที่อยู่บนร่างกายแม่ ในน้ำนมมีสารทุกชนิดที่สัตว์ตัวน้อยต้องกาเจริญเติบโต ลูกอ่อนของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมไม่ได้มีพัฒนาการอยู่ภายในร่างกายของแม่หมดทุกชนิด มีสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมกลุ่มเล็กๆสองกลุ่มทำตัวแตกต่างออกไป
กลุ่มแรกคือพวกที่ออกลูกเป็นไข่ เรียกว่าพวกโมโนทรีม ได้แก่ ตุ่นปากเป็ดและอิคิดนา หรือเม่นกินมด ตุ่นปากเป็ดวางไข่ในโพรงแต่อิคิดนาเก็บไข่โทนของมันไว้ในกระเป๋าพิเศษที่ท้องจนกระทั่งพร้อมจะฟักเป็นตัวอีกกลุ่มหนึ่งคือ มาร์ซูเปียล ซึ่งลูกอ่อนของมันจะไปพัฒนาเสร็จสมบูรณ์ที่กระเป๋าหน้าท้อง เมื่อแรกเกิดลูกจิงโจ้ยาวเพียง 2 เซนติเมตร ทั้งตัวเล็กตาบอด และไร้ขน มันจะหาหนทางไปยังที่ปลอดภัยในกระเป๋าหน้าท้องของแม่เมื่อไปถึงมันจะล็อกตัวเองติดกับหัวนมที่อยู่ในกระเป๋าและเริ่มกินทันที่สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมส่วนใหญ่มีประสาทสัมผัสรับภาพ กลิ่น และเสียงที่ดีประสาทสัมผัสเหล่านี้ช่วยในการเฝ้าระวังสัตรูหาอาหาร และติดต่อสื่อสารกับตัวอื่น ๆ การรับกลิ่นเป็นประสาทสัมผัสที่สำคัญที่สุดสำหรับสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมหลาย ๆ ชนิด สัตว์กินพืช เช่น กระต่ายและกวางจะดมกลิ่นอากาศเพื่อจับสัญญาณอันตราย เช่น กลิ่นของสัตว์นักล่า...
สัตว์พวกนี้ เป็นสัตว์เลือดอุ่น สามารถควบคุมอุณหภูมิให้คงที่ได้ แม้จะอยู่ในสภาพแวดล้อมที่อุณภูมิสูงหรือต่ำกว่าอุณหภูมิร่างกาย เป็นสัตว์ที่มีการวิวัฒนาการสูงสุด จึงเรียกว่า สัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนม เพราะว่าในเพศเมียจะมีต่อมน้ำนมเพื่อผลิตน้ำนมสำหรับเลี้ยงตัวอ่อน เราสามารถแบ่งสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนมตามลักษณะของการออกลูกและเลี้ยงลูกได้ 3 กลุ่ม คือ
1. กลุ่มที่ออกลูกเป็นไข่ พวกนี้จะวางไข่เหมือนสัตว์ปีกและสัตว์เลื้อยคลาน โดยมีเปลือกแข็งหุ้ม พบว่ามีเพียง 2 ชนิดเท่านั้น คือ ตุ่นปากเป็ด และตัวกินมด ซึ่งเป็นสัตว์พบเฉพาะออสเตรเลีย และนิวกินีเท่านั้นภายหลังตัวอ่อนออกจากไข่ แล้วกินนมจากแม่เพื่อเจริญเติบโตต่อไป
1. กลุ่มที่ออกลูกเป็นไข่ พวกนี้จะวางไข่เหมือนสัตว์ปีกและสัตว์เลื้อยคลาน โดยมีเปลือกแข็งหุ้ม พบว่ามีเพียง 2 ชนิดเท่านั้น คือ ตุ่นปากเป็ด และตัวกินมด ซึ่งเป็นสัตว์พบเฉพาะออสเตรเลีย และนิวกินีเท่านั้นภายหลังตัวอ่อนออกจากไข่ แล้วกินนมจากแม่เพื่อเจริญเติบโตต่อไป
2. กลุ่มที่มีถุงหรือกระเป๋าบริเวณหน้าท้อง พวกนี้จะมีถุงบริเวณ หน้าท้องไว้สำหรับเลี้ยงดูตัวอ่อนซึ่งมีขนาดเ ล็กมากเพราะมดลูกของสัตว์กลุ่มยังไม่พัฒนาดีนัก จึงให้ลูกเจริญเติบโต ภายในมดลูกได้เพียงระยะสั้นๆ แล้วต้องให้ตัวอ่อนมาเจริญอยู่ภายในถุงบริเวณหน้าท้อง ได้แก่ จิงโจ้หมีโคอะม่า และวัลลาบี ( คล้ายจิงโจ้แต่มีขนาดเล็กกว่า ) ซึ่งพบเฉพาะในประเทศออสเตรเลียเท่านั้น
3. กลุ่มที่มีรก พวกนี้จะมีมดลูกที่พัฒนาดี โดยมีการสร้างรกเชื่อมระหว่างถุงหุ้มตัวอ่อนกับผนังมดลูกของแม่ ใช้สำหรับแลกเปลี่ยนสารต่างๆ ระหว่างแม่กับตัวอ่อนรวมทั้งอาหารต่างๆ จากแม่ก็จะถูกส่งไปยังตัวอ่อน เพื่อให้เจริญเติบโตภายในมดลูก โดยผ่านทางรก ตัวอ่อนจะเจริญอยู่ภายในมดลูกของแม่จนสมบูรณ์เต็มที่ จึงคลอดออกมาและดูดกินนมจากแม่อีกระยะหนึ่งจนโตพอที่จะดำรงชีวิตได้เอง ได้แก่ คน ช้าง ม้า วัว ควาย สุนัข แมว หมู เสือ สิงโต หมี
ลักษณะที่สำคัญ มีขนลักษณะเป็นเส้นสั้นๆ ปกคลุมลำตัว ตัวเมียมีต่อมผลิตน้ำนมสำหรับเลี้ยงตัวอ่อน หายใจด้วยปอด มีหัวใจ 4 ห้อง มีแขน ขา ไม่เกิน 2 คู่ ออกลูกเป็นตัว ยกเว้นบางชนิดออกเป็นไข่ เช่น ตุ่นปากเป็ด และตัวกินมด บางชนิดยังอาศัยอยู่ในน้ำ เช่น ปลาวาฬปลาโลมา ปลาพะยูน บางชนิดบินได้ เช่น ค้างคาว
ลักษณะที่สำคัญ มีขนลักษณะเป็นเส้นสั้นๆ ปกคลุมลำตัว ตัวเมียมีต่อมผลิตน้ำนมสำหรับเลี้ยงตัวอ่อน หายใจด้วยปอด มีหัวใจ 4 ห้อง มีแขน ขา ไม่เกิน 2 คู่ ออกลูกเป็นตัว ยกเว้นบางชนิดออกเป็นไข่ เช่น ตุ่นปากเป็ด และตัวกินมด บางชนิดยังอาศัยอยู่ในน้ำ เช่น ปลาวาฬปลาโลมา ปลาพะยูน บางชนิดบินได้ เช่น ค้างคาว
การสืบพันธุ์ มีการสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศ โดยมีการปฏิสนธิภายในร่างกายตัวเมีย ส่วนตัวอ่อนจะเจริญเติบโตอยู่ภายในมดลูกของแม่จนคลอดออกมาเป็นตัว ยกเว้นสัตว์ที่ออกลูกเป็นไข่แล้วฟักเป็นตัว เพราะสัตว์พวกนี้ไม่มีมดลูก และพวกที่มีมดลูกไม่พัฒนาดีนักพวกสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนม